จากเจ้าหนูเปียโนอัจฉริยะ..สู่ดีเจ/โปรดิวเซอร์ระดับโลก!!

แม้จะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับงาน OUTPUT FESTIVAL ที่จะจัดขึ้นในเมืองไทยสำหรับวันที่ 11สิงหาคมนี้ ต้องถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องด้วยเหตุสุดวิสัยบางประการ!! ทำให้เราอาจจะพลาดชมศิลปินดีเจดังๆมากมายที่มาในงานนี้..และหนึ่งในนั้นคือ Zedd นั้นเอง ซึ่งสำหรับเจ้าหนูคนนี้ขอบอกว่าไม่ธรรมดาจริงๆครับ...ถ้าใครเคยบอกว่า การเป็นดีเจนั้นเป็นเรื่องง่ายนั้น..ลองมาดูเส้นทางเดินที่ไม่ธรรมดาของหนุ่มอัจฉริยะคนนี้..การมีแบคกราวน์ที่เติบโตมาในครอบครัวนักดนตรี..พรสวรรค์ในการเล่นเปียโนและแต่งเพลงตั้งแต่อายุยังน้อย..และเพราะการที่ Zedd เป็นทั้ง “ศิลปิน/ดีเจ” และ“ดีเจ/โปรดิวเซอร์” ที่เกิดมาเพื่อดนตรีอิเล็กทรอนิกส์!!! เรื่องราวของเขาเป็นอย่างไรลองไปดูกันครับ

เลือดนักดนตรีเชื้อสายรัสเซีย และเยอรมัน

Zedd หรือ ชื่อจริงของเค้าก็คือ อันตอน ซาสลัฟสกี (Anton Zaslavski) ซึ่งชื่อของเค้านั้นเป็นภาษารัสเซีย Zedd เกิดในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1989 เป็นลูกครึ่งชาวรัสเซีย-เยอรมัน หนุ่ม Zedd นั้นเกิดที่รัสเซีย ทั้งพ่อแม่ต่างก็เป็นนักดนตรี เค้าจึงได้มีโอกาศเริ่มเล่นดนตรีชิ้นแรกก็คือเปียโนตั้งแต่อายุได้4ขวบจากแม่ของเขาที่เป็นนักเปียโนด้วย และเจ้าหนู Zedd ยังเริ่มแต่งเพลงตอน 6 ขวบ โอ้โห!!ดูน่าจะรีบ จากนั้นตอนอายุ12 เขาเริ่มตีกลอง ในวงร๊อค และ เมทัล และได้เริ่มเล่นกับวงดนตรีเยอรมัน Dioramic โดย Lifeforce Records และสิ่งที่ทำให้หนุ่มZedd หันมาสนใจเพลงอิเล็คโทรนิคก็คือ เพลงก็วง Justice ซึ่งเป็นศิลปินชาวฝรั่งเศษนั้นเอง!!

คลิปวีดิโอการเล่นเปียโนของ Zedd เมื่อตอนอายุได้เพียง 9ขวบ

วง Justice จากฝรั่งเศส อีกหนึ่งวงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่ยอดเยี่ยมระดับรางวัล Grammy Award

ออกเดินทางสู่เส้นทางสาย ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์

Zedd เริ่มผลิตดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2009 เขาเริ่มทำงานจากเพลงแนวอิเล็กโทรเฮาส์ มื่อเขาชนะในการประกวด Beatport remix contests ด้วยเพลง The Anthem ซึ่งสามารถเข้าสู่ชาร์ต Beatport Electro house Top 20..เพลง Scary Monsters and Nice Sprites ของ Skrillex ที่เขานำมารีมิกซ์สามารถทะยานขึ้นสู่ #2 ของชาร์ต Beatport Electro House Top Ten charts จากนั้นเขาก็ได้ รีมิกซ์ เพลงของศิลปินดังๆมากมาย อาทิ The Black Eyed Peas, Lady Gaga, Skrillex เป็นต้น(โดยเฉพาะเจ๊ดัน..อย่าง Lady Gaga ที่มีส่วนให้โลดแล่นในวงการได้อย่างรวดเร็ว)

ผลงานรีมิกซ์สุดเจ๋งจากหนุ่ม Zedd กับ Scary Monsters and Nice Sprites ของป๋า Skrillex

เมื่อ Zedd กลายเป็นน้องรักของคนในวงการ

Credit to Rukes.com (Photo)

จากนั้นมา ในปี 2011 ซิงเกิ้ล Shave it up ของเขาก็ได้ พรีเมียร์บน เพจของ Skrillex ใน ยูทูป และ เพลง Born This Way และ Marry the night ที่เขารีมิกซ์ ได้ถูกรวมอยู่ในอัลบั้ม Born This Way [Special Edition] ปี 2012 เขาได้เป็นโปรดิวเซอร์ในเพลง I don't Like You ของ Eva Simons และร่วมโปรดิวซ์ในเพลง Beauty and The Beat ของ Justin Bieber อีกด้วย!!

เพลง I Don't Like You ของ Eva Simons ผลงานโปรดิวซ์อย่างเต็มตัวของ Zedd

ยืนยันความสำเร็จด้วยรางวัล Grammy Award

แต่ต่อมาได้ขยับขยายมาทำแนวอื่นด้วย โดยได้รับอิทธิพลจากเพลงแนว "โพรเกรสซีฟเฮาส์".. "ดั๊บสเตป" ..และดนตรีคลาสสิก เซดด์เติบโตและเริ่มอาชีพของเขาที่เมืองไคเซอร์สเลาเทิร์น ประเทศเยอรมนี จนมาเป็นที่รู้จักจากเพลง "Clarity" ที่ได้ฟอกซ์ (Foxes) มาร่วมงาน ติดชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 สูงสุดอันดับ 8 และติดอันดับ 1 ชาร์ตยูเอสแดนซ์คลับซองส์ เขาได้รับรางวัลแกรมมี่ในสาขาบันทึกเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยม จากงานแกรมมี่ครั้งที่ 56 จากเพลง "Clarity" นี่เองครับ

เพลง Clarity ของ Zedd ที่ได้ Foxes มาฟิจเจอริ่งให้ (เป็นอีกเพลงที่จะได้ยินบ่อยมากในคลื่นวิทยุ)

ผลงานของ Zedd ยังคงฉายแววอย่างต่อเนื่อง

จนมาเมื่อ วันที่ 26 มกราคม ของปีก่อน หนุ่ม Zedd ปล่อยเพลงที่มีชื่อว่า “Find You” ฟิจเจอริ่ง กับ Matthew Koma และ Miriam Bryant ซึ่ง จะรวมอยู่ใน ซาวด์แทร็ก สำหรับเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Divergent อีกด้วย และในปีนี้หนุ่ม Zedd ก็ได้ออกอัลบั้มเต็มของเค้ามาแล้ว โดยมีชื่อ True Colors ซึ่งบอกได้เลยว่า ไม่ผิดหวังจริงๆครับ :D

เพลง Find You ของ Zedd ที่ได้ Matthew Koma และ Miriam Bryant มาร่วมฟิจเจอริ่งด้วย ซึ่งนอกจากโปรดิวซ์แล้ว Zedd ยังร่วมเพอร์ฟอร์มอีกด้วย

ปิดท้ายด้วยคลิป True Colors ของ Zedd ถ้าลองฟังแล้วคุณจะเห็นพัฒนาการทางดนตรีที่มากมายเหลือเกินของ Zedd และมิวสิกก็เท่มากๆ โดยการเล่นไฟบนตึก Empire State Building ครับ