top of page

M-flo สุดยอดตำนาน “อิเล็กทรอนิกส์-ฮิพฮ๊อพ”..ตลอดกาลแห่งเจแปน!!


พวกเขาคือ กลุ่มนักดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และดีเจ/โปรดิวเซอร์ชาวญี่ปุ่น ที่สามารถสร้างผลงาน “Hiphop-R&B” ที่ผสม “Pop”ใสๆสไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว!! แถมยุคหลังยังเพิ่มแนว Nu jazz..Lounge จนมาเป็น Techno หล่อๆอีกด้วย!! โดย M-flo เดบิวครั้งแรกในปี 1999 สมาชิกวงจะมีด้วยกันสามคน (ร้องนำ Lisa แร๊พเพอร์ Verbal และดีเจโดย ☆TAKU) และออกซิงเกิ้ลที่สร้างชื่อเสียงให้ทั้งสามคือ “Come Again” แต่หลังจากนั้นนักร้องนำขอถอนตัว ไปออกอัลบั้มเดี่ยว..M-flo เลยกลายเป็นกลุ่มวงสองหนุ่มดูโอ้แทนนั้นเอง..แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองกลับพบโอกาสใหม่ๆ..อันเป็นที่มาของโปรเจค "Loves" ด้วยการเลือกนักร้องหลายๆคนมาร้อง..แทนที่จะมีนักร้องหลักประจำวงนั้นเอง..ซึ่งผลลัพท์ ที่ออกมานั้น ทำให้แต่ละเพลงจะมีความ สด..ใหม่..และสร้างความหลากหลายในสไตล์ M-Flo ได้ยอดเยี่ยมอีกด้วย!!..วันนี้เราลองไปทำความรู้จักพวกเขากันครับ :D

ก่อนจะมาเป็น M-flo

เริ่มต้นจาก Verbal ก่อนครับ ชื่อจริงของเขาคือ Young-Kee Yu เขาเป็น “Zainichi” ของญี่ปุ่น หรือก็คือคนเชื้อชาติอื่นที่อาศัย ในประเทศญี่ปุ่นนั้นเองครับ ถึงจะเชื้อชาติเกาหลี แต่ก็ถือว่าเป็นคนญี่ปุ่นเต็มตัวนั้นแหละครับ เพราะเป็นเจนเนอเรชั่นที่สามของตระกูลแล้วที่มาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น!!..ส่วน ☆TAKU หรือชื่อจริงคือ Taku Takahashi เป็นหนุ่มจากจังหวัด Yokohama ที่ครอบครัวค่อนข้างจะมีฐานะ โดยช่วงวัยเด็กนั้นทาง ☆TAKU ถูกส่งมาเรียนที่โรงเรียนอินเตอร์ "St. Mary’s International School" ที่โตเกียว และทั้งสองได้มาเจอกันที่โรงเรียนแห่งนี้นี่เอง!! ย้อนกลับไปเวลานั้น ☆TAKU สตาร์ทจากการเป็น มือกลองประจำวงร๊อคในวงที่ชื่อว่า “N.M.D”ครับ แต่หลังจากฟอร์มวงกันได้ไม่นาน ก็มีสมาชิกเก่าขอลาออกไป..และ เฮีย Verbal ก็เขามาเสียบแทน ในฐานะแรพเพอร์ประจำวง!! (ก่อนหน้านี้ครอบครัวของ Verbal ย้ายไป บอสตันชั่วคร่าว เนื่องจากคุณพ่อถูกย้ายไปประจำที่สาขาบอสตัน และที่นั้นเองเขาได้มีโอกาสไป Y.M.C.A ซัมเมอร์แคมป์ โดยระหว่างเดินทาง เขาได้ยินเพื่อนนักเรียน แร๊พเพลง “It’s Tricky”ของ Run-DMC ในรถโรงเรียน..เขาชอบมากๆ และทำให้เขาฝึกแร๊พมาตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา)

Run-D.M.C กลุ่มศิลปินฮิพฮอพ จากนิวยอร์ก นำโดย Jam Master Jay, Darryl McDaniels และ Joseph Simmons

สำหรับวง N.M.D ในช่วงที่มี Verbal อยู่นั้น กลายเป็นวง Rap-Rock ที่เนื้อหอมใช่ย่อย เพราะออกแสดงแบบไลฟ์โชว์ในหลากหลายที่..จนมีแมวมองจากหลากหลายค่ายเข้ามีรุมจีบ..แต่อย่างไรก็ตามพวกเขากลับยังเรียนกันอยู่ จึงปฎิเสธไป..และสุดท้าย N.M.D ก็ยุบวงในเวลาต่อมา..หลังจากนั้น สมาชิกวงก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อ โดย Verbal กลับไปเรียนต่อมหาลัยที่ Boston..ส่วน ☆TAKU ไปเรียนต่อที่ Los Angeles และเริ่มผลันตัวเองไปศึกษาด้านดีเจ และเรียนด้านทำเพลงครับ!!

เปิดตัวด้วยวงสไตล์ Trio !!

หลังจากที่สองหนุ่ม Verbal และ ☆TAKU กลับมาใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น พวกเขามีโอกาสไปเพอร์ฟอร์มด้วยกัน ในหลายๆคลับ และยังทำ Demo กันหลายชิ้นงานด้วย แต่ก็ยังไม่เข้าตากรรมการสักที..จนในที่สุดเขามาพบกับ Asakawa Masaji ซึ่งเป็นไดเร็กเตอร์ของ บริษัท Artimage ทั้งคู่จึงเริ่มมีผลงานแจมๆกับชาวบ้านทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ถึงแม้จะมีผลงานร่วมกันออกมาบ้างแต่ก็ไปไม่ได้ดีเท่าที่ควร..จนสุดท้ายเขาได้พบกับ Lisa (ชื่อเต็มๆคือ Narita Erizabesu Sakura เธอเป็นน้องสาวเสียงดีลูกครึ่ง ญี่ปุ่น-โคลัมเบีย) และพวกเขาก็ฟอร์มวงกันในชื่อ M-flo ซึ่งจริงๆ Verbal ต้องการใช้ชื่อเต็มๆคือ “Mediarite-flo”(สื่อถึง สเก็ตดาวนั้นเอง) แต่ภายหลังชื่อนี้ถูกหลายคนทักท้วงว่ายาวไปจึงย่อมาเหลือแค่ M-flo แทน.. หลังจากที่ฟอร์มวงกันค่อนข้างแน่นแล้ว M-Flo ก็ค่อยๆเติบโตไปเรื่อยๆ ด้วย Been So Long ที่เป็นซิงเกิ้ลเพลงแรก ได้ไปอยู่ในเกมส์ Beatmania IIDX ด้วย จึงมีชื่อเสียงมากขึ้น!!

สองอัลบั้มแห่งความสำเร็จของทั้งสาม

หลังจากที่วงเริ่มมีฐานแฟนเพิ่มมากขึ้น M-Flo ก็ตัดสินใจ เซ็นสัญญากับค่าย Rhythm Zone ของ Avex Trax โดยวงเปิดตัวด้วย “The Tripod e.p.” ที่สามารถขึ้นสู่อันดับ #7ของชาร์ท Oricon และจากนั้นอีก7เดือนต่อมาปล่ออีกสี่ ซิงเกื้ล ของอัลบั้มเปิดตัวอย่าง Planet Shining ซึ่งฮิตอย่างสุดๆในเพลง “How you like me now?” ที่ขึ้นอันดับ #9 และ “Come Again” ที่สูงถึงอันดับ #4 จากนั้นไม่นาน ก็ออก EXPO EXPO ที่เป็นอัลบั้มที่สองตามมา!! แต่ในช่วงเวลานั้น Lisa เองก็ออกโซโลอัลบั้มด้วยเช่นกัน กับเพลง “Move on”ของเธอก็ไต่ไปถึงอันดับ #7ของชาร์ท Oriconเช่นกัน..และเรื่องน่าเศร้าของแฟน ที่หลังจากนั้นเพียงไม่นาน Lisa ก็ตัดสินใจที่ประกาศลาออกจาก M-Flo และไปเอาดีทางด้านศิลปินเดี่ยวแทน!!

เพลง Come Again เป็นหนึ่งในเพลงแห่งความทรงจำของ M-flo สมัยยังมี Lisa อยู่ด้วย!!

ยุคของ " M-Flo Loves " โปรเจครวมศิลปิน

เมื่อ Lisa แยกตัวออกไป ก็กลับมาเป็นดูโอ้ Verbal และ Taku เหมือนเดิม..แต่แฟนๆก็ยังคงรัก M-Flo อยู่ถึงขนาดออกอัลบั้ม The Intergalactic Collection ที่เป็น Fan-Selected อัลบั้ม เลยทีเดียว..และถัดมาในเดือน June ปี 2003 วงได้ออกอัลบั้มใหม่ ในชื่อ Astromantic แถมได้นักร้องระดับคุณภาพ Crystal Kay (สาวญี่ปุ่นเสียงดี ลูกครึ่งเกาหลี แอฟริกา-อเมริกัน) มาช่วยร้องนำในเพลง “Reeewind” ภายใต้ชื่อคอนเซป “m-flo loves Crystal Kay” และเพลง "I LIKE IT" ภายใต้ชื่อคอนเซป “Crystal Kay loves m-flo” ความสำเร็จทั้งสองซิงเกิ้ล ส่งผลให้ชื่อของ Crystal Kay ประสพความสำเร็จครั้งใหญ่ที่สุดในสายอาชีพของเธอ (ญี่ปุ่นมีกระแสชาตินิยม และเพราะเธอเป็น ครึ่งเกาหลี-ครึ่งแบล๊กอเมริกัน ที่ลุคดูไม่ค่อยจะเอเซียเท่าไหร่ ความนิยม จึงไม่มากเท่าที่ควร ทั้งที่พรสวรรค์ของเธอนั้นถูกยกให้เทียบเท่า Utada Hikaru เลยทีเดียว!!)

เพลง "Reeewine" ของ M-flo ในอัลบั้ม Astromantic ที่ถือเป็นอัลบั้มแรกในคอนเซป Loves นั้นเอง

นอกจากสาส Crystal Kay แล้วเพลง Miss You ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่น่าสนใจ เพลงได้สาวญี่ปุ่น สัญชาติอเมริกัน อย่าง Melody Ishihara มาร้องให้แถมงานนี้ยังได้ Ryohei Yamamoto มาร้องคู่กับสาว Melody บวกกับแร๊พของ Verbal ด้วยแล้วทำให้อัลบั้ม M-Flo Loves ที่เป็นโปรเจคแบบหลากศิลปินนั้น..ทำให้แนวฮิพฮอพของญี่ปุ่นมีมิติที่หลากหลายขึ้น และแน่นอน อัลบั้มนี้สามารถไปสูงถึงอันดับ #2 ของ Oricon ชาร์ท

เพลง "Miss You" เป็นอีกหนึ่งเพลง จากคอนเซป Loves แถมเป็นเพลงคู่ ที่ได้ Ryohei Yamamoto มาร้และ Melodyมาร้องอีกด้วย

เริ่มใส่ความเป็น วงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ลงไปมากขึ้น

สำหรับอัลบั้มที่ 4 “Beat Space Nine” เป็นสตูดิโออัลบั้มที่ ยังคงในคอนเซป "M-Flo Loves" โดยดึงศิลปินหลายๆคนมาร่วมงานนั้นเอง แต่จะแตกต่างจากอัลบั้มก่อนตรงที่ ใส่ความเป็น ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้นมากขึ้น และ ได้ร่วมงานกับศิลปินดังๆ ทั้ง Kahimi Karie และ Akiko Wada โดยเฉพาะ ไฮไลท์ของ Beat Space Nine นี้คือเพลง "Tripod Baby" ที่ได้เพื่อนเก่าอย่าง Lisa กลับมาแจมให้ในเพลงนี้นั้นเอง และส่งผลให้เป็นอัลบั้มที่สามารถแตะ ชาร์ทอันดับ #1 ของOricon ได้เป็นครั้งแรก!!

จากนั้นในปี 2007 วง M-Flo ออกอัลบั้มที่ห้า (แต่ถือเป็นอัลบั้มที่สามของ “Loves”) โดยอัลบั้มนี้จะเป็นการปิดไตรภาค “Loves” คือนี่จะเป็นชุดสุดท้ายของโปรเจค “หนึ่งเพลงหนึ่งศิลปิน” ครับ โดยคอนเซปของ Cosmicolor คือเน้นไปที่คำว่า Love นั้นเอง และได้ศิลปินใหม่ๆมาร่วมร้องด้วย แถมได้ Crystals Kay และ Melody มาร่วมร้องอีกครั้ง (แต่แฟนๆก็แอบผิดหวังเล็กๆเพราะ Lisa ไม่ได้กลับมาร่วมร้องใน Cosmicolorนี้ด้วย)

เพลง "Tripod Baby" จากอัลบั้ม Beat Space Nine ถือเป็นเพลงที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนๆ ด้วยการกลับมาร้องแจมของ Lisa

Teriyaki Boyz

ระหว่างช่วงปี 2005 (คาบเกี่ยวระหว่างอัลบั้ม4-5) ก็เป็น ช่วงพักเบรค ของ M-Flo ทำให้ Verbal มีโอกาสไปแจมกับเพื่อนๆวงการ จนถึงขนาดมีโปรเจคพิเศษ ร่วมกับศิลปินคนอื่น ตั้งเป็น “Supergrop” ของฮิพฮอพญี่ปุ่น ออกมาในชื่อ “Teriyaki Boyz” ใช้แล้วครับ ถ้าใครจำได้ ซุปเปอร์กรุ๊ปกลุ่มนี้ คือเจ้าของเพลง ประกอบภาพยนต์ The Fast and The Furious ตอน Tokyo Drift นั้นเองครับ นอกจากนั้นแล้วกลุ่ม ยังได้ทำเพลงร่วมกับฮิพฮอพระดับโลกอย่าง Beastie Boys..Kanye West … Pharrell Williams และ แก๊งของเฮีย Pharrell ในนาม The Naptune อีกด้วยครับ!! แถม Teriyaki Boyz ยังได้เพลงที่ Daft Punk มาโปรดิวให้อย่าง HeartBreaker!! (เจ๋งขนาดนี้ ถึงเฮีย Verbal แอบนอกใจ M-Flo ก็น่าให้อภัยครับ)

ผลงาน ยุคหลังของ M-flo

อัลบั้มหลังๆอย่าง Square One (2012) ก็จะเป็นงานที่กลับมาเป็นสไตล์ของทั้งสองมากขึ้นโดยจะเน้นไปที่ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเต็มที่กับฮิพฮอพมากขึ้น โดยช่วงนั้นได้รับการสนับสนุนจาก Reebok ซึ่งออกแคมเปญ “Reethym Of Lite” และได้กลุ่ม HipHop อย่าง Cream มาช่วยเสริมทัพให้กับอัลบั้มนี้ครับ โดยเพลงโปรโมทคือ “Run” นั้นเองครับ... และมาในอัลบั้มกับ Neven (2013) ได้ทำเพลงโปรโมท Transformers : Prime อีกด้วย... ส่วนอัลบั้มสุดล่าสุดอย่าง Future is wow (2014) วิวัฒนาการของ M-Floจะสดใหม่มากขึ้น เพราะนอกจากจะยึดดนตรีดังเดิมแล้ว ยังเพิ่มกลิ่นอาย EDM ลงไปมากขึ้น ตามยุคสมัยของดนตรีนั้นเองครับ และกลับมาเดินเกมเหมือนในคอนเซป Loves คือดึงศิลปินดังๆ มาร้องให้กับพวกเขา (แต่จะใช้ Plus แทน Lovesครับ)

เพลง "FLY" ของ M-flo ในสตูดิโออัลบั้มชุดล่าสุดในชื่อ Future is wow ร้องโดย Yoohei Kawakami

-- ข้อมูลจาก Generasia.com และ Wiki เรียบเรียงโดย Choco Beat --

Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page