Pendulum กับอีกหนึ่งตำนาน “Electronic Rock” ที่เท่โคตร..บอกเลย!!

แม้ปัจจุบันจะยุบวงกันไปแล้ว..บวกกับ “Rob” และ “Gareth” ตัวตั้งตัวตีของวง ก็แยกออกไปทำโปรเจค “ดูโอ้ดีเจ”อย่าง “Knife Party” ก็ตามที!!..แต่ถึงอย่างไร “Pendulum” ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนๆจากทั่วโลกครับ!!..ถ้าย้อนไปเมื่อต้นยุคมิลเลนเนียม(2000) กับความคิดที่ว่าจะนำ “Electronic Music”ไปผสมกับดนตรี “Hard-Rock” นั้น..เป็นอะไรที่ค่อนข้างแหกคอกมากๆ..แต่ใครจะเชื่อว่า หนุ่มๆพวกนี้ดันทำสำเร็จ..และสร้างวงร๊อค รูปแบบใหม่ในสไตล์ “Drum&Bass” ขึ้นมาได้(แถมลงตัวอีกด้วย)!!..วันนี้เราไปทำความรู้จักกับ Pendulum กันดีกว่า!!

สองหนุ่มอดีตวงร๊อค...ผู้สร้างประสบการณ์ในโลก “EDM”!!

Pendulum ฟอร์มวงกันที่ประเทศออสเตรเลียครับ โดยสมาชิกหลัก Rob Swire และ Gareth McGrillen ทั้งคู่ต่างอยู่ในวงร๊อค และวงเมทัล ที่อื่นกันมาก่อน..แต่ในช่วงปี2002..หนุ่ม Rob นั้นพาตัวเองไปสู่โลกการเป็นโปรดิวเซอร์ สร้างงานด้วยซอฟแวร์ทำเพลง..แต่จากแค่ชิมลาง กลายเป็นหลงใหล..เขาเลยชวนเพื่อนรักอย่าง Gareth มาทำเพลงอิเล็กทรอนิกส์ในคอมพิวเตอร์ด้วยกัน!!...และไม่นานทั้งสองก็ถล้ำลึก ในเพลงอิเล็กทรอนิกส์ จนถึงขั้น จับคู่เพอร์ฟอร์มกัน..แต่ในฐานะ “ดูโอ้ดีเจ” ซึ่งใช้ชื่อว่า Pendulum นั้นเองครับ..โดยจะนำเอาดนตรีร๊อคและเมทัลที่ทั้งคู่ถนัดเข้าไปผสมลงไปเบาๆในดนตรีแนว EDM (Electronic Dance Music)

และต่อมาในปีเดียวกันนี้ พวกเขาได้พบกับแนวร่วมขบวนการคนใหม่ คือนาย Paul Harding…และเพื่อไม่รอช้า Trio DJ/Producer กลุ่มนี้จึงปล่อย Single แรกออกมาในปี 2003 อย่าง “Vault” และตามมาด้วย “Spiral” และ “Ulterior Motive” ตามลำดับ..แต่ถึงแม้จะปล่อยมาถึงสามเพลงด้วยกัน...อัลบั้มเปิด(เต็มๆ)ของ Pendolum กลับปล่อยจริงๆในอีกสองปีต่อมา(ทั้งสามทำอย่างพิถีพิถัน) โดยชื่อ “Hold Your Colour” (2005) โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนๆ UK แถมยังเป็นอัลบั้มที่จัดเข้าขั้น “Golden Album” ของออสเตรเลียอีกด้วย!!

เพลง Slam ในอัลบั้ม Hold Your Colour ถือเป็นเพลงแรกของ Pendulum ที่มี MV (แถมเพลงยังใช้ประกอบเกมส์ Motorstorm:PS3 อีกด้วย)

พัฒนาไปสู่ “วงอิเล็กทรอนิกส์ร๊อค” ที่สมบูรณ์แบบ!!

หลังจากไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในฐานะ “ดีเจ” และ “อีดีเอ็มโปรดิวเซอร์” นั้น..ทั้ง Rob..Gareth..และ Paul ก็เกิดไอเดียที่จะนำดนตรีของพวกเขา เสนอในรูปแบบของ “วงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ร๊อค” ที่เป็นความฝันของทั้งคู่... โดยในปี 2006 Pendulum กลายร่างจากวง “Trio” เป็น “Sextet(วงหกคน)” แทน..โดยได้มือกีต้าร์ อย่าง Peredur ap Gwynedd มาเพิ่ม...และอีกหนึ่ง “Paul” (Paul Kodish) มาเป็นมือกลอง แถมยังสร้างสีสันของวงด้วย MC ฝีปากจัดจ้านอย่าง Ben Mount มาบิวความมันส์ให้กับการเล่นสดของวงด้วย!! ส่วนสมาชิกดั้งเดิมของวงก็กลับมาจับเครื่องดนตรีที่ถนัด เช่น Gareth McGrillen เล่นเบส.. Rob Swire กีต้าและร้องนำ ส่วน Paul Harding เป็นนักดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Musician)ประจำวงนั้นเอง

และแล้วอัลบั้ม In Silico (2008) สำหรับรูปแบบใหม่ของวง ก็ถึงเวลาเปิดตัว!!..และแน่นอน Pendulum ได้เปลี่ยนแกนหลักของพวกเขา ให้กลับเป็น Rock ครับ..ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ทำใหเประสพความสำเร็จอย่างงดงาม..จนสามารถไต่ไปสูงถึงอันดับ 2# ในUK ชาร์ทได้อีกด้วย..แถมดังไปไกลถึง US อีกตั้งหาก ด้วยการไต่ไปถึงอันดับที่ 16#ของ US ชาร์ท …แต่ในปีนั้นเองด้วยเหตุผลบางประการณ์ Paul Kodish มือกลองของวง ได้ตัดสินใจออกจากวง...อย่างไรก็ตามอัลบั้ม In Silico ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของพวกเขา (สามเพลงของอัลบั้มนี้เป็นเพลงประกอบ Need for Speed : Undercover ด้วยนะ!!)

เพลง Showdown ในอัลบั้ม In Sillico อัดแน่นไปด้วย Hard-Rock ผสมกับ Drum&Bass และมีกลิ่นของ Techno บวกเข้าไปด้วย

การผสานของสองโลกดนตรี

ในปี 2010 พวกเขาได้ปล่อยอัลบั้มที่สามออกมา ในชื่อ Immersion แถมเพลงเปิดตัวอย่าง Watercolour ก็ดังมากๆ ถึงขนาด Emalkay นำไปรีมิกซ์ในสไตล์ Dubstep และ Deadmau5 นำเพลงนี้ไปรีมิกส์ในสไตล์ Progressive House อีกเช่นกัน!! (และดูเหมือนวงนี้จะถูกโฉลกกับเกมส์แข่งรถ เพราะถูกเอาไปเป็น OST ในเกม F1:2010 และ Need for Speed : Hot Persuit อีกด้วยครับ) ซึ่งในอัลบั้มชุดที่สามนี้นั้น ยังมีเพลงดังอย่าง Witchcraft และ The Island ครับ… และเนื่องจากทั้ง Rob และ Pual ก็เป็นคนดังของฝั่ง “EDM” ด้วยเช่นกัน พวกเขาจึงนำเอาอัลบั้ม Immersion นี้มาให้เพื่อนๆในวงการดีเจ อย่าง Deadmau5..Tiësto..Chuckie และอีกดีเจอีกหลายคนมา “Remix” เพลงของอัลบั้มนี้ ถึง 15 เอาไว้ถึง 15 Tracks ด้วยกัน..เรียกได้ว่า Pendolum สามารถสามารสร้างปรากฎการณ์ในการเชื่อมระหว่างโลกของดนตรี Rock และโลกของ EDM เข้าไปด้วยกันได้สำเร็จนั้นเอง!!

เพลง Watercolour ในอัลบั้ม Immersion ซึ่งนอกจากประกอบในหลายๆเกมส์แล้ว ยังใช้สำหรับเปิดตัวรายการของ BBC ด้วย

"Rock" และ "EDM" วัฎจักรของ Pendulum

จากความแรงส่งของอัลบั้มที่สาม ทำให้วง Pendulum ได้ออกทัวร์กันไปทั่วโลก..โดยหนึ่งในไฮไลท์ของพวกเขาคือ การไปเป็นวงเปิดคอนเสิร์ต..ให้กับวงอิเล็กทรอนิกส์ร๊อกรุ่นพี่อย่าง Linkin Parkนั้นเอง!!...งานนี้ทำให้ Pendulum มีชื่อเสียงมากขึ้นอีกด้วย!!.. แม้จะเหมือนไปได้สวย แต่ปัญหากลับอยู่ตรงที่ การทำ กับอัลบั้มใหม่นี่แหล่ะครับ!! เหมือนจะมีแต่ข่าวลือ หลุดออกมาตลอด ..เรียกได้ว่า ลือกันตั้งแต่ 2011 จนมาถึง 2014 กันเลยทีเดียว!! แต่จนแล้วจนรอด Pendulum ก็ไม่มีสตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ออกมา และจริงๆในช่วงปี 2012 วงก็ประกาศระงับการแสดงสด..และแยกย้ายกันไป(ยังมีข่าวลือว่าจะกลับมารวมวงกันตลอด).. แต่ที่แน่ๆ Rob และ Gareth ก็มาลงลึกโปรเจค Knife Party ที่พวกเขารีมิกซ์เพลงออกเป็น ทั้ง Single และ EP กันตั้งแต่ 2011 และมาออกเป็น Studio Album กันเต็มๆในปี 2014 นี่และครับ..สำหรับ Pendulum ก็ย่อสเกลจากการแสดงสด เหลือเป็น DJ Set โดย Knife Partyแทนนั้นเอง!!

เพลง Witchcraft ในอัลบั้มสุดท้าย Immersion และเหมือนเป็นธรรมเนียมไปแล้วที่เพลงของ Pendulum ถูกไปใช้ในเกมส์แข่งรถ..เพลงนี้กลายเป็นเพลงประกอบเกมส์แข่งรถอย่าง WRC: FIA World Rally Championship อีกเช่นกัน!!

อย่างไรก็ตาม แม้ Pendulum จะฟอร์มวงเล่นสดกันเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง..แต่ก็สามารถสร้างผลงานได้ถึงสามอัลบั้มคุณภาพเลยทีเดียว แถมยังสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ให้กับวงดนตรี “อิเล็กทรอนิกส์ร๊อค” ในรุ่นหลังๆได้ดีอีกด้วย..ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนเพลงของพวกเขา ก็จะรู้ว่าไม่ใช่แค่ฟิวชั่นเฉพาะ Drum&Bass เท่านั้น แต่ยังมี Genre ของ สายอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ อยู่ในดนตรีร๊อคของพวกเขาอีกเยอะเลยครับ!! (ลองไปหาเพลงอื่นๆของพวกเขาฟังดูครับ..แล้วคุณจะหลงรักวงนี้)

-- ข้อมูลจาก Mtv/Artist.com , Last FM.com , Residentadvisor.net และ Wikipidia.org เรียบเรียงโดย Choco Beat --