มองสาวน้อยผมสีฟ้าอมเขียว...ผ่านมุมของดนตรีดิจิตอลกับ “Miku เสียงแรกแห่งอนาคต!!”

สำหรับใครหลายคน อาจมีความฝันที่นำเอาตัวเองให้เป็น Avatarไปอยู่ในโลกเสมือน (virtual world) ..และกระทั่งเร็วๆนี้ก็มีการต่อยอดจากโซนี่ใน โปรเจค Moprheus เพื่อรองรับเกมคอนโซลอย่าง PS4 หรือกระทั่ง Oculus Rift สำหรับคอ PC นั่นเอง!!.. แม้กระแสโลกเสมือนจริงจะเป็นที่หน้าตื่นตาตื่นใจและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มานานนับ 10ปีแล้ว...แต่ก็มีคนสวนกระแส แทนที่จะดันตัวเราไปสู่โลกเสมือนจริงนั้น...เปลี่ยนเป็นดึงตัวละครในนั้น ให้มาอยู่ในโลกจริงๆเลยดีกว่า..และไม่ใช่แค่ออกมาแต่ร่างเปล่าๆเท่านั้น.. แต่ดึงมาทั้งเสียง ตัวตน และจิตวิญญาณให้เป็นไอดอลเดินดินธรรมดาได้ ไม่ต่างจากคนจริงๆเลย!! โปรเจคที่ว่านี่คือ Hatsune Miku จากผู้พัฒนาอย่าง Crypton Future Media นั้นเอง และสำหรับในอุตสหกรรมดนตรีเอง..นอกจากในญี่ปุ่นแล้ว เธอยังโด่งดังไปทั่วโลก ไม่ว่าจะไปในอเมริกา..รวมถึงประเทศไทย ผลงานระดับ Worldwide ของ Miku นั้นเธอเองยังได้แสดงเปิดตัวให้คอนเสิร์ตของ Lady Gaga มาแล้ว และยังมีการร่วมงานเพลงกับ Pahrrell อีกด้วย...นอกจากคุณภาพแล้ว เรื่องปริมาณก็ไม่น้อยหน้าเลยที่เดียว เพราะสาวน้อย Humanoid คนนี้ยังร้องมาแล้วมากกว่า 100,000 เพลงอีกต่างหาก!!

จุดกำเนิดของสาวน้อยผมสีฟ้าเขียว

ฮัทสึเนะ มิกุ 初音ミク Hatsune Miku นักร้องสาววัย 16ปี แห่งสังกัด Vocaloid ซึ่งเธอเป็นตัวการ์ตูนเด็กสาวผมสีฟ้าเขียวมัดแกละ และเธอยังนักร้องสาวที่ดังไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ และ ฮัทสึเนะ มิกุ ชื่อของเธอมาจากคำว่า ฮัทสึ Hatsu ( 初 แปลว่า แรก ) , เนะ Ne (音 แปลว่า เสียง ) และ มิคุ Miku ( 未来 แปลว่า อนาคต ) ซึ่งทั้งหมดแปลว่า "เสียงแรกแห่งอนาคต” ถ้าใครได้ทราบถึงประวัติของเธอแล้วหรือได้รู้จักเธอ จะเข้าใจว่าชื่อนี้เหมาะสมกับเธอมากเลย เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกับเธอมาขึ้น เราจะมาเข้าสู่ประวัติของเธอกัน เริ่มแรก Crypton Future Media (คริปตันฟิวเจอร์มีเดีย)ที่ก่อตั้งโดยคุณ Hiroyuki Ito (ฉายาเขาคือ Father of Miku) ได้ร่วมมือกับ Yamaha (ยามาฮ่า) ร่วมกันพัฒนาโปรแกรมสังเคราะห์เสียงร้องโวคาลอยด์ 2 หรือ ฮัทสึเนะ มิกุ นั้นเอง เธอได้ถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2007 เสียงของเธอนั้นได้ Samplingเสียง มาจากนักแสดงสาวชาวญี่ปุ่น ชื่อ ซากิ ฟูจิตะ นอกจากเรื่องเสียงแล้ว ทางบริษัท Crypton Future Media ภาพลักษณ์ก็เป็นเรื่องสำคัญในการผลักดันงานประชาสัมพันธ์ให้คนได้รู้จักบริษัท ซึ่งให้นักออกแบบ ออกแบบ ฮัทสึเนะ มิกุ ขึ้นมา ซึ่งได้ผลลัพท์ คือ สาวน้อยอายุ 16 ปี ผมสีฟ้าเขียว มัดแกละ สวมเสื้อเปิดไหล่ คู่กับกระโปรง พร้อมปอกแขน และรองเท้าบูท ส่วนสูง158 น้ำหนัก42 กิโล ร้องเพลงแนว POP/DANCE โทนเสียง 70 – 150 dpm ช่วง A3 – E5 และต่อจากนั้นเธอก็ยังมีผลงานแนวเพลงอื่นๆออกมาอีกเรื่อยๆ

คุณ Saki Fujita ผู้บันทึกเสียงต้นแบบของ Miku เธอเป็นทั้งนักพากษ์และนักร้องเพลงการ์ตูน รวมทั้งเป็นนักแสดงอีกด้วย

จากตัวละครที่รัก..ไปสู่โปรแกรมเสียงสุดฮิต

หลังจากการเปิดตัวของเธอ ทำให้ชาวชุมชน Nico Nico Douga ซึ่งเป็นเวบไซต์ผู้ให้บริการรับฝาก และเผยแพร่วิดีโอ ในญี่ปุ่น ก็ให้ความสนใจอย่างล้นหลาม โดยได้นำโปรแกรม Vocaloid 2 Hatsune Miku Version มาใช้สร้างสรรค์ผลงานกัน โดยผลงานที่เป็นที่ได้รับความนิยมสูงสุด และทำให้ ฮัทสึเนะ มิกุ โด่งดังไปทั่วโลก คือ Hachune Miku ซึ่งเป็นฮัทสึเนะ มิกุ ในรูปแบบ SD ถือต้นหอมญี่ปุ่น ร้องเพลง Ievan Polkka ซึ่งออกแบบภาพได้น่ารัก โดยที่เสียงร้องของเธอนั้นเข้ากันกับเพลง Ievan Polkka อย่างน่าอัศจรรย์ ส่งผลให้ผู้คนในญี่ปุ่นและอีกหลากหลายประเทศให้ความสนใจ และนำโปรแกรม Vocaloid 2 Hatsune Miku Version มาศึกษา และใช้สร้างผลงานทั้งในรูปแบบเสียง และวีดีโอประกอบงานภาพ 2 มิติ และ 3 มิติ ออกมามากมายในเวลาต่อมา..ในต่างประเทศเองก็มีคนเปรียบเทียบโปรแกรมนี้อย่างขำๆว่า “Vocaloid 2 ก็คือเมื่อ Siri พบ Garageband นั้นเอง”เพราะมันคือการนำเสียงจริงๆของคนที่ได้ Sampleไว้แล้ว มาเก็บเรียบเรียงไว้ที่ฐานข้อมูล ซึ่งนำมาใช้เขียนเนื้อเพลง แต่งเพลงและประยุกต์ใช้ในงานอื่นๆ

Hachune Mikuใช้เป็นตัวแทนของ Fanmade Version นั้นเอง

ก้าวมาสู่ฐานะศิลปินเต็มตัว

ต่อจากนั้นในปลายปี ค.ศ. 2009 กลุ่มแฟนๆของ ฮัทสึเนะ มิกุ ได้รวมตัวลงชื่อเรียกร้องมากกว่า 12,000 ราย ส่งไปยังโครงการสำรวจอวกาศบนดาวศุกร์ของญี่ปุ่น ที่ชื่อว่า Akatsuki ให้ทำการติดตั้งแผ่นอลูมิเนียมที่มีภาพของ Miku เป็นส่วนหนึ่งของยานสำรวจ ทางโครงการ Akatsuki จึงได้ทำการติดตั้งแผ่นอลูมิเนียมที่มีภาพของMiku จำนวน 3 ชิ้น เป็นส่วนประกอบของยานในที่สุด และได้ทำการปล่อยยานเดินทางจากผิวโลกสู่อวกาศ และฮัทสึเนะ มิคุ ปรากฏตัวในมังงะ อนิเม และเกมส์ ในหลายๆรูปแบบด้วยกัน จนในวันที่22 สิงหาคม ค.ศ.2009 ฮัทสึเนะ มิกุ ได้ขึ้นเวทีแสดงสดครั้งแรกในคอนเสิร์ท Animelo Summer Live 2009 ที่ Saitama Super Arena ตามมาด้วยการแสดงสดในต่างประเทศครั้งแรกที่งาน Anime Festival Asia (AFA) ที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2009 โดยMiku ได้มีงานคอนเสิร์ทเฉพาะของตัวเอง ในรูปแบบ 3d hologram ในชื่องาน“Miku no Hi Kanshasai 39’s Giving Day” ที่ Zepp Tokyo ในวันที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2009 และได้จัดแสดงอีกครั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 2 กรกฏาคม ค.ศ. 2011 ที่ Nokia Theater ในช่วงงาน Anime Expo ซึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วโลก ผลงานเพลงที่ได้รับความนิยม ก็เช่นเพลง Tell Your World , BLACK ROCK SHOOTER , World's End Dancehall , Ievan Polkka เป็นต้น จนถึงทุกวันนี้ ฮัทสึเนะ มิกุ ได้ครองใจผู้คนมากมาย และยังมีผลงานออกมาให้ติดตามกันเรื่อย ใครที่เริ่มสนใจในตัวเด็กสาวผู้นี้แล้ว ก็ลองไปหาผลงานเธอมาฟังได้ คุณอาจจะหลงรักเด็กสาวคนนี้เลยก็ได้ครับ

ตัวอย่างแผ่นอลูมิเนียม ของ Miku ในโครงการยานสำรวจ Akatsuki ของ JAXA

ศาสตร์แห่ง Vocaloid..เสียงอนาคตของดนตรีดิจิตอล

การใช้เสียง Sampling ของมนุษย์มาใช้ในคอมพิวเตอร์แบบอินเทอร์แอคทีพนั้นมีมานานแล้ว แต่สำหรับในวงการดนตรีเองจะย้อนไปตั้งแต่สมัยยุค 60s..ตอนนั้น โมเดลคอมพิวเตอร์ IBM 704 ที่สร้างขึ้นที่ Bell Lab นั้นถือเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ร้องเพลงได้!! ซึ่งวงที่นำเอา IBM 704 มาใช้นั้นก็คือวง Kraftwerk จากเยอรมันนั้นเอง จากนั้นก็มีการพัฒนาเรื่องนี้เรื่อยมาจนในยุค 2000 เจ้า Modern Vocaloid ก็ก้าวหน้ามากขึ้นเมื่อมันมีเรื่องของการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง.. ถ้าตัดกลับมาที่บริษัทผู้ให้กำเนิด Miku อย่าง Crypton Future Media นั้นก็เป็นผู้พัฒนาซอฟท์แวร์นี้โดยตรง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 2004 เขาได้ออกโปรแกรมตัวแรกขึ้นคือ Vocaloid รุ่นหนึ่งในชื่อ Meiko (พี่สาวคนโตของ Miku) จะเป็นในคอนเซป Voice-in-a-box และถัดมาอีก 2ปี Vocaloid เสียงผู้ชายก็เกิดขึ้นในชื่อ Kaito นั้นเอง.. อย่างไรก็ตาม Vocaloid ถือเป็นนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้บริษัทและวงการดนตรีของญี่ปุ่น...อย่างที่เกริ่นไว้แต่ตอนต้น.. กว่า100,000 เพลงที่เป็นเสียงของมิกุคงเกิดขึ้นไม่ได้..ถ้าสาวน้อยผมสีฟ้าอมเขียวคนนี้ไม่จุดพลังให้พวกแฟนเพลงของเธอสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ขึ้นมา!!

ขอทิ้งท้ายด้วยมิวสิควีดีโอเพลง Odds & Ends ของวง Supercell ที่ได้ Hatsune Miku มา Feat.ครับ