top of page

มารู้จักกับ "ตระกูลเฮาส์" กันเถอะ!!


หลายสิบปีมาแล้วที่ดนตรีเฮาส์ได้ถือกำเนิดขึ้น จากยุคสมัยที่อยู่ในเทรกของแผ่นไวนิล จนไปสู่ยุคของเทคโนโลยีกับวิวัฒนาการ ที่กลายเป็น “อิเล็กทรอนิกส์แดนช์มิวสิค” หรือเรียกกันสั้นว่า “EDM” นั้นเอง..ถึงแม้จะแตกแขนงออกไปมากมาย แต่ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน(Basic Structure) ที่แน่นของเฮาส์นั้นเอง แม้จะมีแนวย่อยออกมาเยอะขนาดไหนก็ไม่หลุดความเป็นเฮาส์ง่ายๆครับ วันนี้เรามารู้จักกับเฮาส์สำคัญๆกันดีกว่าครับ

Deep House

แนว Deep House (1980s) เป็นการฟิวชั่นกันระหว่าง Jazz-Funk และ Chicago House และเติมประกายของ Soul Music เข้าไปด้วย โดยส่วนมาก Melodyของ Deep House นั้นจะค่อนข้างซับซ้อนครับ บางที่จะวางคอร์ดแบบไม่เชื่อมกัน (น่าจะเพราะอธิพลจาก Jazz นั้นเอง) และสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Deep House นี้คือ ท่อนร้อง(Vocal)ครับ..เราจะเห็นบ่อยกับสไตล์การร้องแบบ Soulful แบบสโลว์เมโลดี้..สมูท..ชิค และมีสไตล์นั้นเอง นักร้องส่วนใหญ่จึง เป็นนักร้องหญิงมากกว่านักร้องชายครับ.. (และที่จังหวะแบบไปเรื่อยๆ เนิบๆ ด้วยซาวด์ที่ “ผ่อนคลาย”..จนตอนหลังมีการเพิ่มเมโลดี้แบบ Hypnotic(สะกดจิต) เข้ามาใช้ด้วยกลายเป็น “Deep Hypnotic House” ครับ)

แนว Deep House กับเพลง Need U (100%) ของ Duke Dumont เพลงนี้สามารถขึ้นสูงถึงอันดับ#1 ของ UK ชาร์ตเลยทีเดียว

Disco House

สำหรับ Disco House (Nu-disco/Electro-disco) คือ แดนซ์มิวสิคของศตวรรษที่21มาเจอกันกับดิสโก้ยุคใหม่(70s-80s) และวงที่พรีเซนท์ Disco House ได้ดีที่สุดคือ Daft Punk นั้นเองครับ ส่วนดิสโก้ที่มีอิทธิพลต่อแนวนี้ประกอบด้วย สี่สายด้วยกันครับ มีอะไรบ้างลองไปดูกันครับ!!

- Italo Disco ดิสโก้จากอิตาลีที่เพิ่มความใหม่ด้วย Drum Machine และ Syntheziser แต่ตอนหลัง Italo Disco ถูกกลืนจนเป็น Italo House

- Boogie ดิสโก้อเมริกา ที่ผสมรึทึ่มและบลูลงไป แต่ใส่อิเล็กทรอนิกส์ด้วย โดยเสน่ห์อยู่ที่เสียงร้องและ เอฟเฟกต์แบบจัดเต็มนั้นเอง

- Euro Disco ดิสโก้ ยุโรปซินหนักๆที่ผสม “ป๊อบ” “นิวเวฟ” และ “ร๊อค” ที่สำคัญ Euro Disco ของแท้นั้นเนื้อร้องจะภาษาอังกฤษเท่านั้น..แต่สำเนียงอาจจะหลากหลายได้ครับ

- P.Funk โดยจะย่อมาจาก Parliament-Funkadelic ที่เป็นกลุ่มดนตรีผู้คลั่งไคล้ฟั๊งครับ!! ส่วนประสำคัญคือ Synthesizer สไตล์อวกาศ ผสมเสียง “Squelching”เล็กน้อย บวกความเป็น Jazzy ด้วยเครื่องเป่า และที่ขาดไม่ได้คือแนวกีต้าร์ Funk และ Rock ครับ

เพลง Groove Kings Soul Heaven โดย Rob Hayes หนึ่งตัวอย่างที่ดีของจังหวะ Disco ในแนว House ครับ

Electro House

รูปแบบหนึ่งของ House ที่มีคนนิยมมากที่สุด โดยคาแรคเตอร์ของ Electro House นั้นจะเน้นที่เบสไลน์ หนักๆ หรือที่ใช้บ่อยๆคือซาวด์เบสดรัมแบบกว้างๆ หรือ คิ๊กดรัมเพื่อใช้ในจังหวะที่เรียกว่า “Four-on-the-floor” (นับจังหวะ 1-2-3-4 แบบเบสิกดิสโก้) และความเร็วของเพลงจะอยู่ที่ 125-135 BPM นอกจากเรื่ององค์ประกอบของแนวที่พูดไปแล้ว Electro House ยังได้รับอิทธิพลมาจาก Synth-Pop..Electro-Pop และ Tech House อีกด้วย และที่มันดังไปทั่วโลกนั้นก็เพราะเป็นแนวหลัก ของเหล่าดีเจดังๆนั้นเองเช่น Swedish House Mafia..Hardwell..Skrillex..Steve Aoki และ Dimitri Vegas & Like Mike เป็นต้น

Electro House กับ One (Your Name) ของ Swedish House Mafia กับสปีดคิ๊กดรัมที่ไปได้ดีกับเบสไลน์,จังหวะดร๊อปที่ดีเยี่ยม

Tech House

มันคือการเอาองค์ประกอบของ Techno มาใส่ลงใน House นั้นเอง ซึ่งถ้าจะขยายให้เห็นภาพมากขึ้น..ก็คือนำ Deep และ Minimal จากฝั่ง Techno บวกกับ Soulful และ Jazz แบบ House สไตล์ และหลังที่พบบ่อยก็คือนำเอาองค์ประกอบของ Dub เข้ามารวมด้วย..และบางครั้งก็จะเป็นการเน้นไลน์เบสที่ดุดัน แถมผสมบีทหนักๆ ด้วยคอร์ดและจังหวะของ Progressive Houseอีกด้วย(โดยปรกติแนว Tech House จะยาว 6-10นาทีครับ) …สำหรับจุดกำเนิดของเฮาส์ชนิดนี้จะอยู่ที่อังกฤษครับ ประมาณ กลางจนเกือบไปปลายยุค 90s

Caribou – Can’t Do Without You รีมิกซ์ Tale Of Us & Mano Le Tough กับองค์ประกอบที่ครบถ้วนสำหรับ Tech House

Progressive House

แนวนี้เริ่มเมื่อยุค 90sต้นๆครับ แต่ก่อนจะไปทำความรู้จักกับแนวนี้เราต้อง เข้าใจกับคำว่า “Progressive” สำหรับดนตรีกันเสียก่อน..คำนี้ใช้กันเมื่อยุค 70s ซึ่งเกิดขึ้นจากรูปแบบทดลอง ของดนตรีร๊อค..ซึ่งเป็นที่มาของ Progressive Rock ในช่วงนั้นครับ พอมาในดนตรีเฮาส์ คำว่า “Progressive” ถูกเหล่าดีเจ และอีดีเอ็มโปรดิวเซอร์ดึงมาใช้เพื่อสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นนั้นเอง โดยมีความน่าจะเป็นที่ว่า มันมาจากการนำ Trance อย่าง Dream Trance หรือ Vocal Trance มาตัดออกในส่วนของ คอรัสแบบกระชากใจ (Anthemic Choruse)..ตัดส่วน Crescendo และ ท่อนรัวกลอง(Drum Rolling) ออกด้วย แต่เติมด้วยการเพิ่มเข้าและดึงออกในส่วนของเลเยอร์ของซาวด์แทน โดยท่อนแต่ละท่อนนั้นจะบวกเพิ่มไปอีกสองบาร์ และมักจะเริ่มด้วย เมโลดี้และรึทึมที่ต่างกันเสมอ...ส่วน Progressive House ในยุคหลังๆนั้นจะมีท่อน Build-Up ตามด้วย Break Down และไปต่อที่ Climax ซึ่งองค์ประกอบพวกนี้มากจาก “Progressive Rock” แบบที่กล่าวมาเบื้องต้นครับ ขาประจำแนวนี้ก็มี Axwell..Steve Angello…Alesso.. และ Deadmau5 เป็นต้น

ตัวอย่างที่น่าสนใจคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก deadmau5 ครับ ลองไปฟัง Avaritia สไตล์ Progressive House

Big Room House

ในช่วงต้นปี 2015 แนวนี้เป็นแนวกลายๆของ Electro-House ที่รู้จักกันในชื่อของ “Big Room”ครับ ได้ถูกพัฒนาขึ้นสืบเนื่องจากกระแสนิยมที่เติบโตอย่างรวดเร็วของ แฟนๆEDM โดยหลักของโครงสร้างจะเป็น Dutch House แบบเด่นที่จังหวะดร๊อป และใส่เสียงเคาะ สไตล์มินิมอล บวกจังหวะเฮาส์มาตราฐาน ทั้งไลน์เบส ไลน์ดรัมคิ๊ก และเมโลดี้เรียบๆ แทรกด้วย Synthesizer ในช่วงเบรกดาวน์.. โดยรวมแล้วคล้ายๆกับ Electro-House ครับ

ลองฟัง Big Room House ของสองพี่น้อง Dimitri Vegas & Like Mike ที่ได้เจ้าหนู Martin Garrix มาร่วมแจมด้วยครับ

Minimal House

แนวนี้เรียกอีกชื่อว่า Microhouse ครับ..เจ้าแนวที่ว่านี้ ได้รับแรงบรรดาลใจจาก Techno ในยุค 90s กับศิลปะสไตล์ Minimalism โดยรากของแนวนี้นั้น คือ Minimal Techno (ดนตรีเทคโน ไม่เยอะเน้นเนื้อๆและ ค่อยเพิ่มตามลูป) บวกกับ Bit-Pop (ดนตรีป๊อปสไตล์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้เสียงจากคอมพิวเตอร์ และวิดีโอเกมยุคคลาสสิค) ซึ่งทั้งสองแนวนี้มาผสมกับ House ปี80sนั้นเองครับ Minimal House นี้เริ่มเป็นที่รู้จักในเยอรมัน จากศิลปินแนวดนตรีเชิงทดลอง (Experimental) อย่างนาย Oval ที่นำเสนอ House แบบ Glitch(ดนตรีที่ใช้เสียง ผิดเพี้ยนหรือเสียง Error ของคอมพิวเตอร์และ อุปกรณ์ดิจิตอล)..สำหรับแนวนี้อาจสรุปได้สั้นๆว่า มันคือ “เฮาส์”ที่ใส่เมโลดี้ “เทคโน” และผสมกลิ่นของ “กลิทช์” ก็ได้ครับ นอกนั้นคาแรกเตอร์จะอยู่ที่แพทเทิน “4/4 Time signature” และ Tempo อยู่ประมาณ 130 BPMครับ

ลองไปฟังกับ Minimal House กับสไตล์ค่อยๆเติมของ Daniel Bell ในเพลง Rhodes 2 กันครับ

Soulful House

นับตั้งแต่ดนตรีแนว “เฮาส์” ได้รับความนิยมและการตอบรับจากทั่วโลก..House Music นั้นก็ถูกจับมาแตกหน่อให้หลากหลายมากขึ้น ..ซึ่งถ้าย้อนกลับไปแรกเริ่ม..ดนตรีแนวเฮาส์ จะกระเดียดไปทางฝั่ง Soul และ Jazz ซะมากกว่า แต่เมื่อรูปแบบมิวสิกต่างๆที่มีมากขึ้น(โดยเฉพาะยุคนี้) บวกกับกระแสนิยมต่างๆ ทำให้ดนตรีแนวนี้(Soulful House) เคยถูกขึ้นป้ายว่า "Funky House” แต่ก็อย่างว่าละครับ พอถูกมาเป็นฟังกี้ ก็จะดูแปลกไปซะหน่อย เพราะมันกำกึ่ง UK Garage และ 2step ที่กำลังฮิตในช่วงนั้นมากกว่าอีก...สุดท้ายแล้วเมื่อมันกลายเป็นรูปแบบเฉพาะตัวและนิ่งได้ที่ ผลที่ออกมาคือ "ดนตรีเฮาส์จ๋าๆ" และดังเดิมนั้นเอง Soulful House เป็นดนตรีที่มีกลิ่นไอแบบ อันเดอร์กราวน์สะอาดๆ และถูกกระจายความนิยมไปจากทั่วทุกมุมโลก ทั้ง ชิคาโก้,นิวยอร์ก ,บลาซิล,ลอนดอน,เมลเบิร์น และอัฟริกาใต้ ถ้าใครยังนึกน่าตาเจ้านี่ไม่ออก ให้ลองหลับตา และนึกถึง Jazz ผสม Soul เท Funk ใส่ Disco และเขย่าด้วย ดนตรีอิเล็กทรอนิกยุค 80 แล้วคุณจะได้ Soulful House ครับ

เพลง Someday ของ Ce Ce Rogers หนึ่งตัวอย่างคลาสสิค Soulful House ที่เพราะสุดๆ

Acid House

สำหรับ Acid House(mid-1980s) เกิดขึ้นจากกลุ่มดีเจจาก Chicago โดยสาเหตุของชื่อนั้นมากจากการ สไตล์ของบีทที่เรียกว่า “Squelching” เช่น เสียงที่เกิดจากการนำเอาวัตถุที่ยืดหยุ่นเช่น นิ้วหรือผ้า ไปถูกระจก (หรือวัตถุผิวเรียบอื่นๆ) หรือถ้านึกไม่ออกก็ประมาณเสียง “บีบของเล่นหมา”(Squeak) ก็ได้ครับตัดกับเสียง เบสต่ำๆสั้นๆ(Oonts) เปิดปิดสลับกัน (อีกตัวอย่างหนึ่งคือ เสียงจูนสัญญาน ของวิทยุสื่อสารครับ) โดยเจ้า “Squelch” นี่ก็ใช้กับ Trance..Techno และ Rave เช่นกันแต่จะเน้นที่ House มากกว่าครับ..สำหรับเสียง Squelching ของ Acid House นั้นเริ่มจากการใช้ Synthesizer/Sequencer ด้วย Roland TB-303… ด้วยความโด่งดังจากชิคาโก้ ลามไปถึง อังกฤษและแพร่สะพัดไปทั่วทวีปยุโรปครับ..และ Acid House นี่เองที่ทำให้ House Music มีผู้ฟังจากทั่วโลกครับ​

ศิลปิน Phuture กับผลงาน Acid Tracks ที่รวบรวมจุดเด่นของ Acid House ออกมาได้อย่างเต็มที่

Funky House

ถ้าใครชอบจัวหวะ Funk อยู่แล้วย่อมต้องไม่พลาดแนวนี้ เพราะแนวนี้จะดึงองค์ประกอบสำคัญๆอย่าง เสียง Sample ของ Funk และไลน์เบส ของ Funk อีกด้วยและอีกอย่างที่ขาดไม่ได้จังหวะ Durm Break ที่ได้แรงบรรดาลใจจาก Fuckในยุค 70s-80s ครับ แต่ Funky House ก็ยังคงความเป็นดนตรีเฮาส์ได้อย่างครบถ้วน ทั้งการใช้ เสียงร้องสไตล์ Soulful การมีไลน์ Synthesizers แบบหนักๆ การใช้ Samplesพิมพ์นิยมของเฮาส์ แต่ที่ต่างออกไปหน่อยคือ จะเน้นความเป็น Acoustic มากกว่า Electronic ครับ

มาดูตัวอย่างของ Funky House กันครับ Hey Hey ของ Dennis Ferrer เพลงนี้มียอดวิวสูงถึง 15ล้านวิวเลยทีเดียว

Future House

แนวเฮาส์สุดท้ายที่จะนำเสนอนี้คือ Future House(2010s)ครับ เนื่องจากตลาด EDM เติบโตเป็นอย่างมาก จนมีหลากหลายศิลปินทำการสร้างสรรค์ผลงาน ต่อยอดแนวต่างๆขึ้นมาใหม่และ Future House นี่เองก็แตกออกมาจาก Deep House โดยจะบวกเพิ่มความเป็น Dance Music ในยุคหลังๆนั้นเอง ขึ้นอยู่กับใครจะเอา EDM แนวใดมาผสม แต่องค์ประกอบหลักยังเป็น Deep House อยู่..ซึ่ง Future House นี้ BPM จะอยู่ที่ 120-128 ครับ

ขอฝากเพลงสุดท้ายไว้ครับกับ A Lot Like Love โดย The Voyagers ฟีเจอริ่งโดย Haris ในเวอร์ชั้น(Oliver Heldens Edit) ที่ใส่ความเป็น Future House ครับ

Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page