7 เหตุผลที่ว่า..ทำไมดนตรี 90’s ถึงกลายเป็นยุคที่ดีที่สุด!!!
ต้องถือว่า ตั้งแต่ก่อนหน้ามาจนถึงยุค 90s นั้น..ดนตรีในช่วงปี 1990-1999 ถือเป็นช่วงที่มีความหลากหลาย และแตกต่างมากที่สุดของวงการดนตรีโลก!! ทั้ง Rock และ Pop การกำเนิดของกรันจ์(Grunge Style)จากอังกฤษและอเมริกา...แนวดนตรีที่เน้นไลน์กีต้าร์เทพๆ..การเกิดขึ้นของเพลงระดับตำนานอย่าง ’Smells Like Teen Spirit’ หรือกระทั่งการแพร่หลายของ MTV รายการดนตรีที่ครอบงำวัฒนธรรมของวัยรุ่นทั่วโลก!!(ช่วงนั้นในประเทศไทยเราได้ดูทั้ง MTV และ Channel V) วันนี้เราลองไปดูกันครับ ว่าทำไมยุค 90s ถึงกลายเป็นยุคที่ดีที่สุด ของวงการดนตรีกัน!!
(Photo From Sidandnancys.deviantart.com,Thedaftclub.com,Women.com)
1. ความโด่งดังของ Britpop และ Indie Rock ของอังกฤษ!!
Britpop แนวดนตรีที่โดนใจวัยรุ่น ทั้งอังกฤษและทั่วโลก(รวมถึงไทยด้วย).. ด้วยเสน่ห์ของดนตรี Pop Rock และ Alternative Rock ที่มันเป็นสิ่งที่มากกว่าดนตรี เพราะมันหมายถึง การขับเคลื่อนของทั้งวัฒนธรรม ที่พยายามสื่อสารออกมาด้วย!! ตัวอย่างเช่นวงดนตรีสี่จตุรเทพ(Big Four) อาทิ วงOasis..วงBlur..วงSuede และ..วงPulp ทั้งสี่แบนด์ที่กล่าวมานี้ เป็นเสมือนเครื่องมือทางการตลาด ที่นำเสนอวัฒนธรรมเพลงจากอังกฤษ ทั้งแนวดนตรี สไตล์เสื้อผ้า และแฟชั่นรองเท้า!!
2. ต่อยอดด้วยศิลปินจากอเมริกา..ยุคสมัยแห่ง Indie Rock และความป๊อปปูล่าของ 'กีต้าร์ไฟฟ้า'!!
หลังจากที่กระแส จากดนตรีของฝั่งอังกฤษแพร่หลายไปทั่วโลก ทางอเมริกาเอง ก็ไม่น้อยหน้าด้วยความดังของ Alternative และยุคฟินของกีต้าร์ไฟฟ้า แม้แต่เทพกีต้าร์อย่าง Kurt Cobain ก็ถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้ โดยตัวเขาและเพื่อนฟอร์มวงกันในชื่อว่า Nirvana ซึ่งจะเป็นสไตล์ Grunge และ Alternative Rock นั่นเอง..โดยเฉพาะชุดแรกพวกเขาก็สร้างชื่อไปทั่วโลก ด้วยเพลง Smells Like Teen Spirit(1991) จนกลายมาเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบัน!! และส่งผลให้ Alternative Rock กลายเป็นดนตรี Mainstream กันเลยทีเดียว!! นอกจากวงนี้แล้ว วงดังๆในยุค90s ของอเมริกา ก็มี Red Hot Chili Peppers.. The Offspring.. Matchbox Twenty.. Goo Goo Dolls.. Third Eye Blind.. Pearl Jam.. The Smashing Pumpkins..Beck.. The Breeders.. Foo Fighters..No Doubt และ Green Day!!
3. Girl Group และพลังของศิลปินหญิง!!
ต่อจากยุคของ Madonna ในช่วง 80s ก็มาถึงวงอย่าง Spice Girls ถือเป็นกลุ่มศิลปินสาวที่ทรงอิทธิพล และเป็นตัวแทนของยุค 90เลยทีเดียว!! เพราะนอกจากความเด่นชัดของ คาแรคเตอร์ที่แตกต่างไป ห้าแบบห้าสไตล์ของสาวแต่ละคนแล้ว ทั้งการให้เสียงร้อง เนื้อเพลงและทำนองก็ทำได้อย่างดีมากๆอีกด้วย แถมพวกเธอยังเป็นผู้นำทางแฟชั่น ผ่านทางวัฒนธรรมของเพลงอีกด้วย (ช่วงนั้นอิทธิพล ของศิลปินอังกฤษ ครอบงำไปทั่วโลกจริงๆ) และถ้าทางฝั่งอเมริกาเอง ก็จะเป็น Girl Group แนว R&B ที่มาแรงไม่แพ้กัน อย่าง วงสามสาวTLC..Sugar Babe..Atomic Kitten และ Destiny’s Child(วงแจ้งเกิดของ Beyoncé) และ All Saints ส่วนในสายต่างประเทศก็มีอีกหนึ่งคู่ดูโอ้สาว ชาวนอร์เวย์ในนาม M2M ที่สามารถโด่งดังเปรี้ยงปร้างทั้งในอังกฤษและทั่วภูมิภาคยุโรป และกระทั่งดังสุดๆในประเทศไทยอีกด้วย และถือเป็นพลังของศิลปินสาวที่มาปิดท้ายปี 90ได้อย่างสวยงาม..พร้อมต่อยอดสู่ศตวรรษใหม่ในปี 2000
4. ยุคของ Pop Divas ระดับตัวแม่!!!
ถึงเกริล์กรุ๊ปจะมาแรง แต่ศิลปินหญิง ที่แจ้งเกิดกันในฐานะราชินีป๊อปแห่งยุคก็มีไม่น้อยเช่นกัน อาทิ Mariah Carey โดยอัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อเดียวกับเธอนั้น ออกเมื่อปี 1990พอดี โดยเธอถือว่าเป็นป็อปสตาร์อาร์แอนด์บี ที่ดีที่สุดแห่งยุคนั้นเลยทีเดียว โดยทศวรรษนั้นเธอออกอัลบั้ม มากถึง 7อัลบั้มด้วยกัน ตามมาด้วยอีกหนึ่งสาวเสียงสวย Ciline Dion โดยเฉพาะเพราะประกอบภาพยนต์ Titanic ถือว่าเป็นเพลงที่ฟังแล้วทำเอาหยุดหายใจเลยทีเดียว.. และอีกศิลปินหญิงผิวสีที่เป็นคนสำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ Janet Jackson (น้องสาวหนึ่งเดียวของ Micheal Jackson) กับเจ๊ Whitney Houseton ที่ผลงานของเธอในช่วง 90s ถือว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุดของเธอ... และขอปิดท้ายด้วย วัยรุ่นสาวสวยอย่าง Britney Spear ที่แจ้งเกิดปลายยุคแต่ ก็สามารถเทียบรัศมีรุ่นพี่ที่เป็นได้อย่างสบาย Britney Spear นอกจากจะอยู่ในยุครุ่งโรจน์ของ MTV แล้วเธอยังเป็นผู้จุดประกายแนวดนตรีสไตล์ Teen Pop อีกด้วย!! (ปลายๆยุค 90s ยังมี Christina Aguilera และ Jessica Simpson)
5. ยุคที่ Boy Band แซ่บสุดๆ
จริงๆแล้ววงไสตล์ Boyband มีก่อนหน้าตั้งแต่ 70s แต่เป็นในรูปแบบของการร่วมกลุ่มของนักร้องที่เน้นเสียงร้อง (ไม่เน้นนักดนตรี) ซึ่งอาจจะมาในรูปแบบ ของการสลับกันร้อง หรือร้องผสานเสียง(เช่น Jackson5, Boyz II Men, The Beach Boy) แต่มาในช่วงปลายปี 80s วงอย่าง New Kids on the Block สามารถสร้างสไตล์ที่ชัดเจนมากขึ้น เพราะนอกจากเรื่องการร้องแล้ว Boyband พวกเขาจะเน้นที่ การเต้นและที่สำคัญคือ ศิลปินผิวขาวหน้าตาดี (รู้หรือไม่..ดาราดังอย่าง Mark Wahlberg ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกเริ่มแรกของวงนี้เช่นกัน) ซึ่งพอมาถึงยุค 90s เหล่า Boy Band ที่มีสไตล์เดียวกันนี้..ก็ทยอยโด่งดัง และดึงดูดสาวๆวัยรุ่นได้มากมาย โดยยุคต้นจะเริ่มที่ Take That ตามมาด้วย... Boyzone... Backstreet Boys... 98Degree... NSYNC... และ Westlife(ที่มาปลายยุคพอดี) เป็นต้น..ถึงแม้หลายวงจะแยกตัวอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีศิลปินเด่นๆของวง แยกออกมาทำอัลบั้มเดี่ยวอยู่ไม่น้อย อาทิ Robbie Williams... Ronan Keating และ Justin Timberlake
6. ยุคทองของดนตรี Hip Hop!!
แม้ว่าต้นกำเนิดของ Hip Hop จะเกิดขึ้นในช่วงปี 70s และมีโหมกระหน่ำ และเป็นที่ยอมรับในยุค New School (กลาง80s) แต่ที่ดนตรีแพร่หลายไปทั่วโลกและกลายเป็น Mainstream จริงๆ คือยุค 90s นี่แหล่ะ.. เพราะมันถูกขนานนามว่าเป็นยุค 'Golden Age' ของวงการครับ!! อย่างเพลง ‘U Can’t Touch This’ ของศิลปิน MC Hammer ในปี1990 นั้นสามารถขึ้นไปสู่อันดับ#1 ของ Billboard Top 100 กันเลย(ถือเป็นครั้งสำคัญที่แนวนี้ ไต่ไปถึงจุดสูงสุด)!!..และสำหรับยุคนี้ ที่นอกจาก Hip Hop จะดังไปทั่วโลกแล้ว แนวของดนตรียังมีหลากหลายสไตล์มากขึ้นอีกด้วย เช่น Southern Rap (อย่างสไตล์ของกลุ่ม The Geto Boys จาก Texas ) หรือจะเป็น Atlanta Hip Hop ที่เติมจังหวะ G Funk และสไตล์ของ Miami Bass (ตัวอย่างเช่นกลุ่ม Outkast) นอกจากนี้องค์ประกอบของดนตรีก็มีการนำสไตล์ใหม่ๆ เข้ามาเสริมเช่น Neo Soul.. Heavy Metal หรือกระทั่ง Jazz Rap และปิดท้ายปี ด้วยกระแส ศิลปิน Hip Hop ผิวขาวอย่างกลุ่ม Beastie Boy และศิลปิน Eminem ที่แจ้งเกิดปลายยุค 90s พอดิบพอดี!!
7. ยุคของ Dance-Pop และ Electronic Music
ถ้าบอยแบนด์ สามารถคว้าใจสาวๆวัยรุ่น ในฐานะ Teen Pop ไปได้แล้ว..หนุ่มสาวนักเต้นที่โตขึ้นมาหน่อยในยุคนั้น ก็คงต้องถูกใจไปกับแนวเพลง Dance-Pop ที่มีส่วนผสมของ Electro-Pop.. Synth-Pop.. Trance.. House..และ Techno ศิลปินดังๆที่ออกเพลงในยุคนั้นก็มีทั้ง Aqua.. Vengaboys.. S Club 7.. A*Teens Ace of Base และ Eiffel 65 สำหรับในช่วงปีนั้นเอง สายดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ก็ถือว่ามาแรงไม่แพ้กัน เพราะเป็นยุคเริ่มต้น ของวงระดับตำนานอย่าง Daft Punk ในอัลบั้ม Homework... ยุคเริ่มต้นของ Basement Jaxx ... วงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ร็อค Radiohead.. ดูโอ้อิเล็กทรอนิกส์ Chemical Brother และ DJ/Producer ผู้เป็นตำนานตลอดกาลอย่าง Norman Cook หรือที่รู้จักกันในชื่อ Fatboy Slim นั่นเอง!!
